ประโยชน์หลักของน้ำคั้นข้าวสาลี
- สร้างเม็ดเลือด
เมื่อเรารับคลอโรฟิลล์เข้าไป
ร่างกายจะนำคลอโรฟิลล์เป็นสารตั้งต้นที่ตับแล้วส่งต่อไปสร้างเม็ดเลือดแดงที่ไขกระดูกทำให้มีการสร้างเม็ดเลือดใหม่ๆ
รวมถึงผู้ที่เป็นโรคเลือดจาง(ทาลัสซีเมีย)
และช่วยรักษาโรคหลอดเลือดแข็งตัว
มีระบบการไหลเวียนของโลหิตที่ดี
- ต้านอนุมูลอิสระ
(อนุมูลอิสระ คือสารพิษ
เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะทำลายเม็ดเลือดและออกซิเจน
ทำให้ร่างกายเสื่อม เช่น การอักเสบ, อัมพาต, มะเร็ง)
ในน้ำคั้นต้นอ่อนข้าวสาลีอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามินC
วิตามินE และยังมีเอนไซม์ SOD(
Superoxide Dismutase)
เป็นเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระตัวเดียวกับทีร่างกายสร้างขึ้น
โดยทำงานร่วมกันกับเกลือแร่ คือ แมกนีเซียม สังกะสี แมงกานีส
ทองแดง และเหล็ก ซึ่งทั้งหมดมีอยู่ในน้ำคั้นต้นอ่อนข้าวสาลี
เอนไซม์ SOD
ยังช่วยป้องกันการระคายเคืองของเซลล์ร่างกายเมื่อถูกรังสี
(X-ray) Dr. Noman Walker
กล่าวว่าเอนไซม์จะสลายที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส ขึ้นไป
น้ำผลไม้คั้นที่ใช้ใบมีด การบด หรือ เครื่องคั้นแบบแรงเหวี่ยง
ด้วยความเร็วรอบสูง (เป็นพัน หรือเป็นหมื่น)
จะเกิดความร้อนจากการเสียดสี และความร้อนจากแรงเสียดทาน
ทำให้เอนไซม์ วิตามิน และ สารอาหารที่มีคุณค่า
ถูกทำลายในปริมาณสูง ดังนั้นจึงต้อง
เลือกเครื่องคั้นและวิธีคั้นที่มีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
- ไม่ทำลายเอนไซม์ และ วิตามิน ในผักและผลไม้
- ทำงานที่ความเร็วรอบต่ำ เพื่อให้เกิดความร้อนน้อยที่สุด
- ไม่มีการปั่น, บด ผักและผลไม้ |
-
ไม่มีการเพิ่มแรงดันกับผักและผลไม้
เครื่องคั้นที่มีประสิทธิภาพ
สามารถรักษาคุณค่าของผักและผลไม้ได้มากที่สุด จึงทำให้ได้
วิธีการดื่มน้ำคั้นต้นอ่อนข้าวสาลี
เริ่มที่ ปริมาณ 1 ออนซ์
ขณะท้องว่างตอนเช้า
เมื่อเริ่มชิน
กับรสชาติ อาจเพิ่มเป็น เช้า-เย็น (ก่อนอาหาร)
สำหรับ
ผู้ที่ต้องการบำบัดควรดื่ม 4-8 ออนซ์/วัน
สำหรับ
ผู้ที่ไม่ชอบรสชาติ อาจคั้นผสมกับแครอท หรือคึ่นไช่
หรืออื่นๆตามชอบ
|
ปลอดภัยจากสารเคมี ด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ |
|
|
|
|
|
คุณค่าของน้ำต้นข้าวสาลีอ่อน
รสชาติหวาน เข้มข้น |
|
|
|
WheatGrassJuice
โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน คลอโรฟิลล์ |
|
|
น้ำต้นข้าวสาลีอ่อน
มีคลอโรฟิลล์ดิบ
คลอโรฟิลล์ดิบ คือ
พลังงานแสงอาทิตย์ที่เข้มข้น
ดังนั้น การดื่มน้ำต้นข้าวสาลีอ่อน ก็คือ
การดื่ม
“พลังงานแสงอาทิตย์ชนิดน้ำ” |
|
|
|
ถ้าหากนำต้นข้าวสาลีอ่อนมาคั้นดื่มสด
เพียง 20
cc.
จะมีสารอาหาร
เท่ากับรับประทาน
ผักสด
ประมาณ 1 กิโลกรัม
ด้วยคุณสมบัติที่น่าทึ่งนี้
ทำให้ได้รับการตอบรับและเป็นที่นิยม
ในอเมริกา ออสเตรเลีย สิงคโปร์ ฯลฯ
มานานกว่า 136 ปีมาแล้ว |
| |
| |
|
|
|
